ทฤษฎีความสอดคล้องกับการวิจัยขั้นสูง
รศ.ณรงค์ชัย ปิฎกรัชต์
มีคำคิดที่เชิญชวนให้คิดว่า นักวิจัยนั้นเป็นนักวิชาการที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยความสำเร็จ ความคิดเช่นนี้อยู่ตรงประเด็นที่ว่า การพันธนาการคือบ่วงความประสงค์รู้ที่อยู่บนระบบคิด การสรรสานถึงสาเหตุอันเป็นมูลแห่งปัญหา มีการออกแบบโครงสร้างของการแสวงหาด้วยแบบแผนและกระบวนการที่วิทยาการของฝรั่งสอนไว้ว่า ซายน์ทิฟิก เม็ทธอด (Scientific Method) สิ่งนี้ท่านว่าสามารถนำไปสู่การค้นพบคำตอบที่เป็นความรู้ใหม่ได้ การหลอมรวมวิทยาเชิงเหตุผลก่อให้เกิดสัมพันธภาพของปรากฏการณ์เชิงระบบได้ เพราะเป็นมาตรฐานของวิธีทางวิทยาศาสตร์ ระเบียบวิธีการวิจัยตามแนวอธิบายนี้จึงเปรียบได้ดั่งยั่วยานของเครื่องขับเคลื่อนที่มีความเที่ยง ความตรง และความน่าเชื่อถือ นับเป็นคุณสมบัติของประสิทธิภาพที่รับรู้เป็นอย่างดีในวงการวิจัย ความกล้าที่จะนำเข้าสู่พันธนาการและการออกพ้นไปสู่ความสำเร็จที่ดีที่สุด มีหลักทฤษฎีใดที่ปัจเจกวิจัยควรใช้เป็นตัวนำทาง
ยั่วยานเป็นเครื่องนำไปที่สำคัญยิ่ง นักวิจัยควรเริ่มต้นเมื่อไร เริ่มต้นอย่างไร จะคิดอย่างไร จะทำอย่างไร ปมปัญหาวิจัยหรือประเด็นวิจัย เข้ากับคำที่ว่า มนกฺการ วิจยํ ชาตํ พนฺธนํ ชาตํ มีความหมายถึง ความตั้งใจวิจัยเกิดขึ้นแล้ว การจองจำอันเป็นเครื่องผูกเกิดขึ้นแล้ว มีหนทางที่สามารถช่วยได้ก็คือ การแสวงหาปัจจัยอันเป็นวิธีหลุดพ้นจากเครื่องผูกนั้น เป้าหมายของการหลุดพ้นมิใช่การหลีกแต่เป็นสิ่งที่พึงปรารถนา เป็นช่องออกที่มีนัยสำคัญ เพราะสิ่งนี้คือความรู้ในคำตอบของสิ่งที่เป็นปม การบรรลุมรรคแห่งเหตุจนบังเกิดผล นับเป็นความสำเร็จของปัจเจกวิจัย เครื่องพันธนาการของความประสงค์รู้บนระบบคิด จึงอยู่บนกรอบนิยามจากผลเชิงนิมานและนิเสธที่นักวิจัยเชิงปริมาณคุ้นเคยกับศัพท์ทั้งสองคำนี้เป็นอย่างดี นิยามของผลเชิงทดลอง นิยามของผลวิเคราะห์เชิงสังคมวัฒนธรรม เชิงพยากรณ์ และอีกมากเชิงที่รอความสำเร็จนั้นอยู่
นักวิจัยในระดับบัณฑิตศึกษา เป็นผู้พร้อมในการเข้าสู่สถานภาพว่าที่ปัจเจกวิจัย มีว่าที่ปัจเจกวิจัยจำนวนไม่น้อยที่เพลิดเพลินกับการศึกษาระเบียบวิธีวิจัย ท่องแสวงไปในสนามของวิทยาการ เข้าสู่ภวังค์ของผู้รู้ผู้ตื่นผู้เห็น ได้ยินได้ฟังวิถีวิจัย พร้อมๆ กับความชื่นชมกับวิธีการตลอดจนค่าสถิติที่มีมากมาย นับตั้งแต่สถิติพื้นฐานไปจนถึงความซับซ้อนของสูตรต่างๆ การศึกษาและตกตื่นเช่นนี้นับว่าดี ตรงทางของความเป็นนักแสวงหา การกำหนดในคำถามหนึ่ง ในโจทย์หนึ่ง ที่มีสมมุติฐานบนฐานของตัวแปร เป็นความท้าทาย เมื่อภาคการเพาะบ่มแนวคิด วิธีการของการแสวงสูตรสิ้นสุดลง ภาคปฏิบัติของการนำมาใช้ก็เริ่มขึ้น ปฏิบัติการวิจัยเป็นความสนุกของปัจเจกวิจัย การมองว่าการวิจัยขั้นสูงนั้น คิดกันว่าต้องใช้ค่าสถิติที่มีความซับซ้อน หรือใช้วิธีหรือเครื่องมือวิจัยที่กำลังนิยมและได้ผลดีของในสังคมวัฒนธรรมหนึ่งเมื่อนำมาใช้ในอีกสังคมวัฒนธรรมหนึ่งนั้น ไม่แน่เสมอไปว่าผลการวิจัยนั้นจะได้ผลที่ตรงกับปัญหาและการแก้ปัญหาได้ ด้วยเงื่อนไขของบริบทบนฐานข้อมูลและตัวแปรที่แตกต่างกัน การแสดงตนหรือจุดยืนของปัจเจกวิจัยเช่นกล่าวนั้น เพื่อบอกถึงความรู้และเข้าใจตัวแปรที่ศึกษา การตั้งสมมุติฐานการวิจัย เมื่อมีการใช้สถิติเพื่อกระทำกับตัวแปร 2 ตัว 3 ตัว หรือมากกว่านั้นในการวิจัยเชิงปริมาณ พยายามแทรกวิธีการเช่นนั้น จนไม่สามารถควบคุมตัวแปรที่แทรกซ้อน แทรกเคียง แทรกเสียด หรือตัวแปรผันแปรใดๆ ที่พัวพันอยู่ในขั้นตอนของการวิจัย กลายเป็นวังปัญหาที่วนเหวี่ยงไปมา การวิจัยเชิงคุณภาพที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้สถิติหรืออาจนำมาเพียงค่าสถิติพื้นฐานก็เพียงพอแล้ว หรือแม้เครื่องมือวิจัยที่เข้าสู่พื้นที่จนทำให้เกิดสภาวะชะงักสนามของวิธีการที่ใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูง ใหญ่โต ให้ได้ข้อมูลมากที่สุดเท่าที่ดำเนินการได้เพียงเพื่อยืนยันว่างานวิจัยนั้นมีความยิ่งใหญ่ในเชิงวิธีการ ปรุงคำตอบว่าหัวข้อศึกษา และวิธีการนี้คือขั้นสูงของการวิจัย นับเป็นการหลงทางด้วยการให้ความสำคัญด้วยการมองความธรรมดาที่มีดีในงานวิจัยอื่นๆ เป็นความธรรมดาที่ธรรมดาเท่านั้น แม้เป็นความสำเร็จแต่ส่วนเกินที่เกิดขึ้น คือความฟุ่มเฟือยของทุกสิ่งที่ประกอบเข้าไว้ด้วยกัน
หนวิถีสู่ทางออกจากพันธนาการไปสู่ความสำเร็จ มีหลายวิธี วิธีหนึ่งคือการใช้ทฤษฎีความสอดคล้องกับงานวิจัย ทฤษฎีนี้ตั้งอยู่บนความเป็นหนึ่งเดียว มีฐานแนวคิด 3 ประการ คือ
ความสอดคล้อง คือ ความพ้องในดุลยภาพ ส่วนใดตอนใดที่กำหนดให้เป็นตัวตั้ง เมื่อนำตัวต่อมากระทำร่วมกัน มีตำแหน่งการประสานต่อสภาวะอย่างได้จังหวะ ย่อมเกิดความสอดคล้อง ทั้งแนวลึกและแนวกว้าง ตลอดจนแนวประสานอื่นๆ สัดส่วนของตัวตั้งและตัวต่อจึงมีความเป็นหนึ่งเดียว และมีความพ้องกันอย่างสมดุล
ความสอดคล้อง คือ ความสมบูรณ์ของกระบวนการ ช่วยให้การขับเคลื่อนของสิ่งนั้นดำเนินต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกรอบการขับเคลื่อนของกระบวนการครอบคลุมประเด็นทุกส่วน
ความสอดคล้อง มีความเป็นพลวัตสัมพันธ์ ด้วยวิถีของความพอดี มีความสมเหตุสมผล ต่อเนื่องจากวิธีหนึ่งสู่อีกวิธีหนึ่ง โดยเป็นพลวัตที่จรเชื่อมกันอย่างมีสัมพันธภาพ
แนวคิดตามทฤษฎีนี้ แสดงจรวัตของฐานแนวคิดทั้ง 3 ดังแผนภูมิ
แผนภูมิ แสดงฐานแนวคิดของทฤษฎีความสอดคล้อง

ความเชื่อบนฐานของความอ่อนเชิงวิจารณญาณที่นำไปสู่พันธนาการในระบบคิด คือความเป็นตัวติดและเป็นตัวยึดมั่นจนทำให้เกิดอัตตาของปัจเจกวิจัย สาเหตุเช่นนี้อาจเกิดขึ้นจากความรู้ใหม่ที่สร้างและสานก่อความเชื่อมั่นจนเกินขอบของความเป็นจริง ในทางกลับกันสาเหตุอาจเกิดขึ้นจากความไม่ลึกพอ องค์คิดขาดความสมบูรณ์ ขาดสิ่งรู้สิ่งเข้าใจในคุณสมบัติของวิธีการ เครื่องมือวิจัย ค่าสถิติ ตลอดจนกระบวนการวิเคราะห์ ความไม่เข้าใจในความสัมบูรณ์ของระเบียบวิธีวิจัย เป็นตัวการสำคัญ เพราะระเบียบวิธีทุกวิธีนั้นดี มีความต่างกันของคุณสมบัติ มีความเหมาะเฉพาะ และมีความลงตัวซึ่งกันและกัน
การพ้นออกจากพันธนาการไปสู่ความสำเร็จอยู่ที่ความคิดเชิงระบบ การนำมรรควิธี โดยใช้แนวคิด 3 ประการของทฤษฎีความสอดคล้องมาเป็นแนวทาง ก็จะพบว่าในความแท้นั้นความเป็นขั้นสูงของการวิจัยมิได้ขึ้นอยู่กับการเลือกระเบียบวิธีที่ไกลจากความเป็นจริง ปัจเจกวิจัยย่อมมีการเลือกสรรระหว่างสิ่งที่คิด ประเด็นหรือปัญหา หรือคำถามวิจัย มีขั้นตอนกระบวนการใดบ้าง หากเปรียบเทียบเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ตั้งบนฐานรากจากพื้นล่างสู่ปลายยอดสูง ดูตระหง่าน เมื่อเข้าไปยืนแหงนมองก็ดูราวกับว่าสุดขอบฟ้า แต่ในความเป็นจริงแล้ว แต่ละส่วนประกอบต่างตรึงไว้ด้วยปริมาตรเหล็กที่มีขนาดท่อนและน้ำหนักแตกต่างกัน ทั้งนี้เหล็กแต่ละท่อนต้องมีตำแหน่งการจัดต่อกันอย่างได้ดุลยภาพ เหล็กชิ้นที่ใหญ่กว่า บางตำแหน่งก็อยู่ต่ำ บางตำแหน่งก็อยู่สูง อยู่ข้าง ตั้งเฉียง ได้มุมได้ฉาก มีน็อตเป็นตัวตรึงยึด แม้ว่าน็อตเป็นตัวแปลกในส่วนของเหล็กลักษณะอื่นๆ ที่มีรูปทรงเป็นแท่งยาวใหญ่ แต่ตัวตรึงนี้ทำหน้าที่จำเพาะของมัน เป็นคู่แห่งความสัมพันธ์ ตัวหนึ่งนั้นช่างเขาเรียกว่าตัวผู้ อีกตัวหนึ่งเรียกว่าตัวเมีย น็อตตัวผู้เป็นแท่ง ปลายข้างหนึ่งมีเกลียวด้านนอก ทำหน้าที่เป็นสว่านไชเกลียว ส่วนน็อตตัวเมียรูปทรงเป็นแป้นมีลักษณะเป็นเหลี่ยม ตรงกลางมีรู ด้านในของรูมีเกลียว เมื่อใดก็ตามที่ช่างขันน็อตตัวผู้เข้าเกลียวด้านในของน็อตตัวเมียก็จะลงตัวได้อย่างพอดี น็อตทั้งสองนี้จึงย่อมมีสัดส่วนสอดคล้องกัน ผิดพลาดไม่ได้ หมายความว่าความสอดคล้องนี้แม้แต่องค์ประกอบเพียงเล็กน้อยก็มีความสำคัญ จึงต้องให้ความสมบูรณ์ของส่วนย่อยเท่ากับส่วนใหญ่ น็อตที่ตรึงแต่ละท่อนชิ้นจากโคนเสาไปจนถึงยอดปลายหลายร้อยเมตรนั้น มีหน้าที่ไม่แตกต่างกันในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่โครงสร้างของเสาไฟฟ้าแรงสูง โดยปริยายก็คือต้องกระทำให้เกิดความสมดุลของรูปทรงนั้น
คำอธิบายนี้เพื่อขยายความเข้าใจในยั่วยานที่ปัจเจกวิจัยจะขับเคลื่อนจากเครื่องพันธนาการไปเป็นเครื่องพัฒนาการ ใช้ทฤษฎีความสอดคล้องเป็นตัวนำทาง ปัจเจกวิจัยผู้พร้อมในหลักวิจัยขั้นสูงหากขจัดพลังร้อนในตนและจิตอวด (Ego) บ้าง ก็ย่อมพบว่า ขั้นสูงนั้นมิใช่น็อตตัวที่อยู่สูงสุดบนปลายยอดเสาไฟฟ้าแรงสูง และขั้นต่ำก็มิใช่น็อตตัวที่อยู่ต่ำเตี้ยล่างสุด ความจริงแท้ของขั้นสูงอยู่ที่การเรียนรู้อย่างเข้าใจ รู้ในคุณสมบัติของทุกขั้นกระบวนความ ความเหมาะสม ความถูกต้องในกระบวนการ เรียนรู้นั้นคือต้องรู้ให้ลึก รู้ให้กว้าง รู้อย่างแจ้งต่อการนำไปใช้ เป็นเช่นดั่งกล่าวนี้ก็จะนำปัจเจกวิจัยหลุดพ้นจากเครื่องพันธนาการ ก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ ข้อคมคำคิดต่อท้าย มีว่า ปราชญ์นั้นมีอยู่ทั่วผืนแผ่นดิน ปราชญ์นั้นมีได้ทั้งที่ได้รับการยกย่องด้วยตำแหน่งทางวิชาการ ชั้นของระบบการศึกษา สถานภาพทางสังคม ปราชญ์นั้นมีได้แม้เป็นชาวบ้านเดินดิน และปราชญ์นั้นก็มีได้แม้ในทุกปัจเจกบุคคลเช่นกัน